ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ เรื่องประโยคความซ้อน
ประโยคความซ้อน หมายถึง ประโยคที่รวมประโยคความเดียว ๑
ประโยคเป็นประโยคหลัก แล้วมีประโยคความเดียวอื่นมาเสริม มีข้อสังเกตคือ ประโยคหลัก
(มุขยประโยค) กับ ประโยคย่อย (อนุประโยค)
ลักษณะของประโยคความซ้อน
๑. เป็นประโยคที่รวมเอาประโยคความเดียว ๒ ประโยคไว้ด้วยกัน
และมีสันธานเป็นเครื่องเชื่อม
๒. เมื่อแยกประโยคความซ้อนออกจากกันแล้ว
จะมีน้ำหนักหรือความสำคัญไม่เท่ากัน ประโยคหนึ่งจะเป็นประโยคหลัก
อีกประโยคหนึ่งจะเป็นประโยคย่อย
ประโยคความซ้อนมี ๓ ประเภท ดังนี้
๑. ประโยคความซ้อนที่ประโยคย่อยทำหน้าที่เหมือนคำนาม (นามานุประโยค) เช่น
ฉันไม่ชอบคนรับประทานอาหารมูมมาม
(กรรม)
คนขาดมารยาทเป็นคนน่ารังเกียจ
(ประธาน)
ฉันไม่ได้บอกเธอว่าเขาเป็นคนฉลาดมาก
(กรรม)
คนไม่ทำงานเป็นคนเอาเปรียบผู้อื่น
(ประธาน)
คนทะเลาะกันก่อความรำคาญให้เพื่อนบ้าน
(ประธาน)
ฉันไม่ชอบคนเอาเปรียบผู้อื่น (กรรม)
๒. ประโยคความซ้อนที่มีประโยคย่อยทำหน้าที่คล้ายคำวิเศษณ์ขยายคำนามหรือขยายสรรพนาม
และมีสันธาน ที่ ซึ่ง อัน เป็นเครื่องเชื่อม เช่น
ท่านที่ร้องเพลงอวยพรโปรดมารับรางวัล
เราหวงแหนแผ่นดินไทยอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเรา
ฉันเห็นภูเขาซึ่งมีน้ำขังอยู่ข้างใต้
ครูที่ใกล้ชิดกับนักเรียนมากย่อมทราบอุปนิสัยของนักเรียน
คนที่ประพฤติดีย่อมมีความเจริญในชีวิต
ก้อยคอยไล่นกกระจอกที่มาขโมยข้าว
พวกที่ออกมาตีนกอีลุ้มได้นำเรือเข้ามาหลบฝน
คำที่เชื่อมประโยคหลักกับประโยคย่อยให้เป็นประโยคความซ้อนแบบนี้ได้แก่
ที่ ซึ่ง อัน
เรา เรียกว่า ประพันธสรรพนาม หรือสรรพนามเชื่อมประโยค
๓. ประโยคความซ้อนที่มีประโยคหลักและประโยคย่อย และประโยคย่อยนั้น
ๆ อาจทำหน้าที่เหมือนคำนามก็ได้ ทำหน้าที่เหมือนคำวิเศษณ์ก็ได้ จะมีสันธาน
เมื่อ, จน, เพราะ, ตาม, ราวกับ, ให้, ทว่า, ระหว่างที่, เพราะเหตุว่า, เหมือน, ดุจดัง, เสมือน, ฯลฯ เป็นตัวเชื่อม เช่น
เพื่อน ๆ กลับไปเมื่องานเลิกแล้ว
ปลัดอำเภอทำงานหนักจนป่วยไปหลายวัน
เธอนอนตัวสั่นเพราะกลัวเสียงปืน
คนป่วยกินยาตามหมอสั่ง
# ข้อสังเกต ประโยคความซ้อน
- ถ้ามีอนุประโยคทำหน้าที่เป็นนามหรือมีคำ "ว่า" อยู่ในประโยค เรียกว่า
นามานุประโยค
- ถ้าอนุประโยคมีคำว่า "ที่" "ซึ่ง"
"อัน" อยู่หน้าประโยคเรียกว่า
คุณานุประโยค
- ถ้าอนุประโยคมีคำว่า
"เมื่อ" "เพราะ"
"แม้ว่า" อยู่หน้าประโยค เรียกว่า
วิเศษณานุประโยค
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น